บ้านสีเทาเข้ม ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัย หลักของศาสตร์แห่ง การแต่งบ้านให้สวยงาม คือการแต่งบ้านคุมโทนสี ซึ่งเป็นรายละเอียดสำคัญที่จะ สร้างบรรยากาศให้กลมกลืน และน่าอยู่ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยน ให้เข้ากับสไตล์ที่ ชื่นชอบได้ง่ายทั้งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นที่เน้นสีอ่อน และวัสดุไม้ บ้านสไตล์นอร์ดิคมินิมัล ที่เน้นโทนสีกลาง อย่างสีน้ำตาล สีเทา และสีเบจ หรือบ้านสไตล์ลอฟท์ ดิบเท่ที่โดดเด่นด้วย ผนังปูนเปลือยสีเทา
เมื่อต้องหาสีสันที่เป็นกลาง เข้าได้กับทุกสไตล์บ้าน รวมถึงช่วยขับสีสันอื่นที่นำ มาคุมโทนให้โดดเด่น ‘สีเทา’ เป็นสีที่มีความสามารถพิเศษรอบ ด้านทั้งเข้าได้กับทั้งสีโทนร้อนและเย็น ใช้ได้กับบ้านหลากหลายสไตล์ รวมถึงคุมโทนได้ทั้งพื้นที่ภายในห้องต่างๆ และภายนอกอย่างผนังบ้าน โถงทางเข้า หรือโรงจอดรถที่ต้องการ บรรยากาศสงบสบาย และขับเม็ดสีของสีสันอื่นๆ ที่นำมาจับคู่ให้เข้มข้นขึ้น
บ้านสีเทาเข้ม
ทำไม ‘สีเทา’ จึงติดเทรนด์สีแต่งบ้านยอดนิยมทุกปี

1.สีเทาเปิดโอกาสให้สมองได้ผสมสี
ในโลกศิลปะ หากต้องการลดความร้อนแรง ของสีที่เข้มชัด ศิลปินมักใช้สีเทาในการเกลี่ยสี ด้วยเหตุนี้สีเทาจึงเป็นสีที่ให้สายตาให้ผสมผสาน สีสันอีกทอดหนึ่ง ซึ่งทดลองได้ง่ายๆ เมื่อนำสีเทาเข้าคู่กับสีสันสดใสก็ จะทำให้รู้สึกว่าสีนั้นยิ่งดูสดขึ้น ดีไซเนอร์จึงสามารถ ใช้สีเทาช่วยกลมกลืน บรรยากาศของพื้นที่ แต่กลับสร้างจุดสนใจ ด้วยการขับสีอื่นให้เปล่งปลั่งได้ดี
2.เรียงไล่โทนสีเทาได้หลายเฉดดั่งใจ
ไม่ว่าจะสีเทาดีบุก สีเทาเมฆ สีเทาควัน สีเทาเข้ม สีเทาของถ่านติดไฟ หรือสีเทาหม่น ล้วนเป็นตัวอย่างของเฉดสีเทาที่มนุษย์เลียนแบบธรรมชาติ นักออกแบบจึง รักสีเทาด้วยเฉดสีที่รังสรรค์ ได้หลากหลาย หากใช้เพียงสีเทาเพียงสีเดียวก็ยังสามารถตกแต่งพื้นที่ได้ คุมโทนก็ยิ่งสะดวกมือ ไล่เรียงโทนจนไปแตะสีขาว หรือดำก็ยิ่งให้ลุคเท่ มินิมัล และคลาสสิคสวยยาวนาน บ้าน 2 ชั้น
3.เข้าคู่กับสีใด ก็ให้บรรยากาศแตกต่างได้ทุกครั้งไป
สีเทากับสีชมพูพาสเทล สีเทากับสีเหลือง หรือสีเทากับสีน้ำเงินโทนเย็น ก็ล้วนเป็นสามคู่สีที่ ปรับบรรยากาศพื้นที่ได้แตกต่างกัน สีเทาและชมพูปรับพื้นที่ ให้ดูมีลูกเล่นสะดุดตา อ่อนหวานแต่แข็งแกร่ง ต่างจากสีเทา และสีเหลืองที่ให้บรรยากาศสดใส ขี้เล่น แต่ก็เป็นผู้ใหญ่ แต่หากเป็นสีเทากับน้ำเงินโทนเย็น จะให้ความรู้สึกสุขุมลุ่มลึก สงบ และสบาย
4.สีเทาเข้าได้กับหลากหลายวัสดุ
หากวางแผนจะแต่งบ้าน คุมโทนโดยใช้พื้น ผนัง หรือม่านเป็นสีเทา มั่นใจว่าสีเทาเป็นตัวเลือก ที่ใช่ด้วยพลังที่ลงตัวกับวัสดุที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่านสีเทากับพื้นไม้ธรรมชาติ ผนังไม้สีเทากับโคมไฟทองเหลือง พื้นไม้สีเทากับเคาน์เตอร์ครัวหินอ่อน เรียกได้ว่าไม่ว่าจะวัสดุ ใดก็ลงตัวกับสีเทาได้งดงามยาวนาน
5.สีเทายังมีเฉดสว่างกำลังดี ดูแลง่าย
บ้านสีเทา โทน ร้อนมีเฉด ที่สว่างกำลังดี ไม่เจิดจ้าดังเช่นสีขาวทำให้กลมกลืน กับสีอื่นได้สะดวก และดูแลรักษาง่ายกว่าสีขาว เมื่อใดนักออกแบบมอง หาสีสำหรับใช้แทนสีขาว สีเทาอ่อนมักเป็นตัวเลือกลำดับแรกๆ ที่ยังให้ลุคโมเดิร์น สะอาด อบอุ่นเช่นเดิม แต่สามารถซ่อน รอยแดดหรือคราบบางๆ ได้ดีกว่าสีขาว รวมถึงดูไม่แข็งจนเกินไปนัก
6.เฉดเทาเข้มยังเป็นตัวแทนยอดนิยมของสีดำ
แม้สีดำจะมีเสน่ห์ซับซ้อน น่าค้นหา การตกแต่งพื้นที่ด้วยสีดำ มักต้องดูแลรักษาอย่างดี ต้องออกแบบจัดไฟให้สว่างขึ้นทดแทนความมืดเข้มที่มากับสีดำ รวมถึงพลังแห่งสีดำมักลวงตา พื้นที่ให้ดูคับแคบ ด้วยข้อจำกัดที่ยากจะหลีกเลี่ยงของสีดำ สีเทาเข้มจึงเป็นสีที่ใช้ทดแทน เพื่อลดปัญหากวนใจ เพราะแม้จะเข้มแต่ไม่มืด มีเสน่ห์สวยงาม อบอุ่นเมื่อสัมผัสแสงธรรมชาติ รวมถึงไม่ลวงตา ให้พื้นที่เล็กลงจนเกินไปนัก
7.สีเทาเป็นสีอเนกประสงค์เมื่อเทียบกับสีจัดโดดเด่น
พื้นที่ที่ตกแต่งด้วยสีสัน จัดจ้านหรือสีเด่นชัด (bold color) มักประสบข้อจำกัดในการแต่งบ้าน ไม่ว่าจะแต่งเพียงนิดเดียวแต่กลับดูแย่งกันโดดเด่น หรือจะแต่งคุมโทนก็มักหา ของแต่งบ้านที่เข้ากันได้ยาก อย่างไม่น่าเชื่อ สีเทาจึงนิยมด้วยการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสีอื่นๆ ในบางครั้ง สีจัดจ้านที่สวยงามอาจมีเสน่ห์เพียงชั่วคราว สีเทาจึงขยับขึ้นเป็นสีคลาสสิคแห่งบ้านยุคใหม่ ด้วยสัมผัสอบอุ่น อยู่สบาย ไม่เบื่อง่าย แม้เรียบนิ่งแต่เต็ม ไปด้วยรายละเอียดที่น่าสนใจ

8.ยืนหนึ่งเรื่องพลังแห่งความสงบสบาย
สีเทามีพลังของสีสันที่ ช่วยให้คลายกังวล สร้างความรู้สึกสงบให้แก่พื้นที่ได้ดี การใช้สีเทาจึงทำให้ นักออกแบบสามารถรังสรรค์พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตรงจุดประสงค์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่ต้องการความสงบ และการพักผ่อนที่แท้จริง เช่น ห้องนอนหรือทางเข้าห้องนอน ห้องอาบน้ำที่เป็นฝักบัว หรือห้องพระที่เปี่ยมด้วยบรรยากาศแห่งสมาธิ
บ้านชั้นเดียวสีเทาเข้ม

“ติดกาแฟ” นำเป็นโรคหนึ่งของคนยุคนี้เลยก็ว่าได้ บางครั้งติดในรสชาติความขม บางคนติดในกลิ่นเข้ม ๆ เมื่อมาแตะจมูก และบางครั้งก็ติดกับบรรยากาศของการได้นั่งจิบกาแฟเพลิน ๆ แต่ไม่ว่าอาการติดกาแฟจะเกิดขึ้นในลักษณะใด ผลที่ได้คือทำให้ร่างกายโหยหามันอยู่เสมอ ซึ่งนับเป็นเสน่ห์ของหนึ่งเลยก็ว่าได้ เจ้าของบ้านหลังนี้จึงดึงเสน่ห์ดังกล่าวมาใช้กับการตกแต่งบ้าน เพื่อเพิ่มแรงดึงดูด ให้กับร่างกายและจิตใจ เรียกได้ว่าทำให้รู้สึกติดบ้าน อย่างงอมแงมเลยทีเดียว
บ้านชั้นเดียว 3 ห้องนอนหลังนี้ พยายามออกแบบ และตกแต่งให้มีความเข้มแต่ละมุนลิ้น เสมือนรสชาติของกาแฟใส่นม ภายนอกเลือกใช้โทนสีเข้ม เปรียบเสมือนเมล็ดกาแฟที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกที่น่าค้นหา แถมยังอยู่ร่วมกับสวนสีเขียวได้อย่างกลมกลืน ไม่โดดเด่นเกินหน้าเกินตา และไม่ราบเรียบจนน่าเบื่อหน่าย
พื้นสวนปูด้วยสนามหญ้า ที่เจ้าของบ้านตั้งใจตัดแต่งให้เรียบเตียนอยู่เสมอ ปูแผ่นพื้นทางเดินเว้นระยะพอประมาณ เพื่อเพิ่มความรู้สึกสนุกในทุก ๆ จังหวะที่ย่างก้าว ริมรั้วหรือกำแพง ปลูกไม้ประดับในบางจุด เพื่อเพิ่มบรรยากาศรอบบ้านให้มีความสดชื่น ทั้งยังมีการปลูกไม้ฟอร์มสวยไว้ข้างบ้าน และทำพื้นที่นั่งเล่นไว้ใกล้ ๆ ไว้เป็นมุมพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติอีกมุมหนึ่งของบ้านด้วย

ก่อนเข้าสู่ภายในบ้าน ต้องผ่านชานระเบียงเสียก่อน พื้นที่บริเวณนี้สามารถใช้รองรับแขกเหรื่อได้อย่างไม่อายใคร ทั้งยังใช้งานได้ตลอดเวลา ทั้งกลางวัน กลางคืน วันฝนตกหรือแดดออก เพราะมีหลังคาทรงจั่วช่วยป้องกันแดดฝนอยู่เสมอ ปูพื้นระเบียงด้วยไม้จริงสีน้ำตาลเข้ม เข้ากันได้ดีกับผนังบ้านสีเทามืด และประตูสีขาวที่คอยเชื้อเชิญให้เข้าไปพักผ่อนภายในบ้าน
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ว่าเจ้าของต้องการให้บ้านมีรสชาติเหมือนกาแฟใส่นม ภายในบ้านจึงค่อนข้างแตกต่างจากภายนอกอย่างสุดขั้ว ด้วยโทนสีสว่างอย่างสีขาว ที่นำมาใช้เป็นสีหลัก ทำให้ทุกห้อง ทุกตารางเมตรมีความเจิดจ้า สว่างไสวอยู่เสมอ
หรือถ้าจะเปรียบสีขาวก็เหมือนดั่งนม ที่ใส่เข้าไปในกาแฟ ช่วยเพิ่มความละมุนนุ่มลิ้น ลดความขมเข้มของกาแฟให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะพอดีขึ้น ทานได้ง่ายกว่าเดิม แม้คนที่ไม่ได้ชอบทานกาแฟก็ยังยกดื่มได้อย่างสบาย ๆ
การจัดผังภายในค่อนข้างมีความอบอุ่น เพราะพื้นที่ส่วนรวมหรือ ห้องแฟมิลี่ได้ถูกจัดไว้ตรงใจกลาง ทั้งยังเชื่อมโยงถึงกันแบบ Open Plan เริ่มตั้งแต่มุมนั่งเล่นหรือมุมรับแขก ห้องครัว และห้องรับประทานอาหาร ตลอดจนถึงระเบียงหลังบ้านที่เดินออกไปยังสวนได้อย่างลื่นไหล
ห้องครัวออกแบบเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว I ชิดติดผนังด้านหนึ่งของห้อง ทำให้มีพื้นที่ว่างสำหรับวางโต๊ะทานอาหารและใช้เป็นทางเดินสัญจร มีการเปิดช่องแสงตรงเคาน์เตอร์ด้วยกระจกใส ติดตั้งม่านพับเพื่อปิดในช่วงที่แดดจ้า หรือตอนกลางคืนที่ต้องการความปลอดภัย

ห้องนอนมีทั้งหมด 3 ห้องด้วยกัน แต่ละห้องแยกออกจากันไปคนละทิศ สืบเนื่องมาจากการจัดผังห้องแฟมิลี่ไว้ตรงใจกลางของบ้าน ทุกห้องเน้นการเปิดรับแสง รับอากาศจากภายนอก ไม่ว่าจะห้องเล็กหรือห้องใหญ่จึงมีความโปร่งสบาย แม้พื้นที่ภายในจะไม่เท่ากันก็ตาม
ห้องนอนมาสเตอร์เชื่อมต่อ กับสวนเพียงไม่กี่ก้าว ใช้ประตูกระจกกรอบสีขาวบานคู่ ช่วยเปิดรับธรรมชาติให้เข้ามาภายในห้องได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ผนังหัวเตียงตกแต่งด้วย วอลเปเปอร์ลวดลายใบไม้สีเขียวเข้ม ล้อกันกับต้นไม้ในกระถางที่ยกเข้ามาไว้ตรงมุมห้อง
ห้องน้ำตกแต่งด้วยธีมสว่างเช่นเดียวกับห้องอื่น ๆ มีการแบ่งโซนเปียก โซนแห้งอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีการใช้สีทองเหลืองมาเป็นตัวช่วยในการเพิ่มความคลาสสิค เช่น ฝักบัว ก๊อกน้ำ รวมถึงมือจับลิ้นชัก เป็นต้น
ระเบียงห้องนอน ดีไซน์แบบไร้หลังคา เพราะต้องการให้เป็นพื้นที่เปิดรับแสง จากท้องฟ้าทั้งกลางวันและกลางคืน เจ้าของห้องสามารถออกมานั่งรับแสงอ่อน ๆ ของพระอาทิตย์ในช่วงเช้าตรู่ และอาบแสงพระจันทร์ในยามค่ำคืนได้โดยไม่มีสิ่งใดมาบดบัง
สีโทนเข้มกับสีสว่างที่นำมาจับคู่กัน โดยแบ่งแยกพื้นที่การใช้งานอย่างชัดเจน ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง ไม่เพียงสร้างมิติให้กับบ้านได้ดีแล้ว ยังช่วยลดความจืดชืด ในการใช้ชีวิตประจำวันได้ด้วย
ข้อควรระวังสำหรับบ้านที่ ตกแต่งด้วยโทนสีมืดเข้ม คือการเลือกใช้โทนแสงของหลอดไฟ เพราะหากเลือกใช้ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกตำแหน่ง ฟิลของบ้านอาจสูญเสียไปจากที่ตั้งใจไว้ไม่มากก็น้อย ส่วนใหญ่จะใช้แสงไฟสีวอร์ม เพื่อเพิ่มบรรยากาศให้แลดูอบอุ่นผ่อนคลายยิ่งขึ้น บางบ้านใช้หลอดไฟ แบบเปลี่ยนสีได้ตามการใช้งาน เช่น เมื่อต้องการอ่านหนังสือหรือทำงาน เปลี่ยนเป็นแสงสีขาว และเมื่อต้องการพักผ่อนเปลี่ยนเป็นแสงสีส้ม เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าฟิลของบ้านจะเปลี่ยนไปแล้ว
แปลนบ้านชั้นเดียว